Middle|Center White

หุ้น

​​​​​​​​​​​​​​​ลงทุนในหุ้นกับหลักทรัพย์กสิกรไทย
รับสิทธิพิเศษมากมายที่คัดสรรมาเพื่อคุณ

 
HtmlBlock
10
Padding
 
 
 

สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
กับ K-Cyber Trade

บริการซื้อขายหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกสถานการณ์

Black
Middle|Left
Left
HtmlBlock
11
Padding
 
 
 

เพิ่มพูนความรู้ ลงทุนอย่างมั่นใจ

ด้วยบทวิเคราะห์ที่ครบถ้วนและมุมมองที่หลากหลายจากทีมนักวิเคราะห์ที่แข็งแกร่ง และงานสัมมนาจากกูรูหุ้นคนดัง

Black
Middle|Left
Left
HtmlBlock
12
Padding
 
 
 

ยิ่งเทรด ยิ่งได้ รับคะแนนสะสมทุกครั้งที่มีการซื้อขาย

นำไปแลกสินค้าบริการและสิทธิพิเศษมากมาย

Black
Middle|Left
Left
None
13
Padding
 

สะดวกสบายกับ K-Investment Corner

ให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางด้านการลงทุนอย่างครบวงจร​​

Black
Middle|Left
Left
HtmlBlock
21
Padding

คำถามที่พบบ่อย

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มีบริการอะไรบ้าง ?

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ให้บริการด้านการลงทุนซึ่งประกอบด้วย บริการซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์ บริการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ บริการด้านวาณิชธนกิจ และ KS Automated Trading System (K-STAs) ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติที่ซื้อขายได้ทั้งหุ้นและอนุพันธ์ นอกจากนั้น บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนเพื่อสร้างทางเลือกสำหรับนักลงทุนด้วยผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อสร้างโอกาสการทำกำไรในทุกสภาวะตลาด เช่น ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW11) , หุ้นกู้อนุพันธ์ระยะสั้น (ELN) , สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงราคาหุ้นแบบรายใหญ่ (SSF) และการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ รวมทั้งให้บริการบทวิเคราะห์หลักทรัพย์

ใครสามารถเปิดบัญชีกับ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ได้บ้าง ?

บุคคลทั่วไปที่สนใจจะลงทุนในธุรกิจหลักทรัพย์ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล (ไทยและต่างชาติ)

ประเภทของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?

ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ มี 3 ประเภท ได้แก่

  1. บัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) บัญชีแคชบาลานซ์จะต้องฝากเงินสด 100% ของจำนวนเงินที่ต้องการซื้อหุ้นเพื่อวางหลักประกันเข้ามายังบริษัท จึงจะสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้ โดยวงเงินในการซื้อหลักทรัพย์จะเท่ากับเงินสดที่ฝากเข้ามาเป็นหลักประกัน
  2. บัญชีเงินสด (Cash Account) บัญชีเงินสดจะต้องฝากเงินหรือฝากหุ้นเข้ามาเพื่อวางหลักประกันก่อนทำการซื้อ ขายหุ้นเป็นจำนวน 20% ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติก่อนการซื้อขาย โดยกำหนดวงเงินจะพิจารณาจากหลักฐานทางการเงินของท่านซึ่งจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท โดยเป็นไปตามเกณฑ์ของบริษัทและเมื่อมีการซื้อหรือขาย บริษัทจะทำการหักค่าซื้อหรือฝากค่าขายหุ้นทั้งจำนวนจากบัญชีธนาคารของท่าน ผ่านบริการตัดบัญชีอัตโนมัติของธนาคาร (ATS) ในวันทำการที่ 3 (T+3) หลังจากวันที่มีรายการซื้อขายหุ้น นอกจากนี้ท่านยังสามารถสมัครใช้บริการ K-Stock2Fund (บริการสั่งซื้อ/ขายกองทุน K-Treasury หรือ K-Money แบบอัตโนมัติ เพื่อชำระราคาค่าซื้อ/ขายหลักทรัพย์) ควบคู่กับการเปิดบัญชีเงินสด เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยออกทรัพย์ระหว่างการรอจังหวะในการลงทุน
  3. บัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance) บัญชีเครดิตบาลานซ์ เหมาะสมกับท่านที่ต้องการเพิ่มอำนาจการซื้อหลักทรัพย์โดยการกู้เงินเพื่อใช้ในการซื้อหลักทรัพย์สูงสุด 1 เท่าของมูลค่าหลักประกันที่นำมาวาง แต่ไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากบริษัท โดยมีเกณฑ์การอนุมัติวงเงินขั้นต่ำที่ 300,000 บาท
วิธีการเปิดบัญชีออนไลน์ และเอกสารที่ใช้ประกอบในการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์มีอะไรบ้าง ?

ลูกค้าสามารถสมัครเปิดบริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านทางเว็บไซต์ของทางบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย​ ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียนใช้งานเว็บไซต์ โดยไปที่ คลิกที่เมนู “เปิดบัญชี”

ขั้นตอนที่ 2 กรอกรายละเอียด ตามประเภทบัญชีหลักทรัพย์ที่ต้องการ

ขั้นตอนที่ 3 ส่งกลับชุดเปิดบัญชี พร้อมเอกสารประกอบ มาที่ ฝ่ายธุรกิจอิเลคทรอนิกส์ บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย

 ​​​หมายเหตุ: บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์จะใช้เวลาประมาณ 3 วันทำการ ในการพิจารณาอนุมัติ


Black
Middle|Left
Left
HtmlBlock
14
Padding

รายละเอียดการสมัคร

เอกสาร

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี Cash Balance ​(เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)

  1. สำเนาประจำตัวประชาชน 2 ฉบับ
  2. สำเนาหน้าสมุดบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย 1 ฉบับ
  3. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องการให้รับเงินปันผล 1 ฉบับ
  4. กรณีมีการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล แนบใบแจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อ-นามสกุล 1 ฉบับ

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี Cash (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)

  1. สำเนาประจำตัวประชาชน 2 ฉบับ
  2. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องการให้ตัดบัญชี ATS 1 ฉบับ​
  3. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องการให้รับเงินปันผล 1 ฉบับ
  4. เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติวงเงิน รวมกันไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท (โดยเป็นไปตามเกณฑ์ของบริษัท)
  5. กรณีท่านมีการเปลี่ยนแปลง ชื่อ หรือ นามสกุล กรุณาเตรียม สำเนาใบแจ้งเปลี่ยนแปลงชื่อ หรือ นามสกุล 1 ฉบับ
  6. หากท่านมีความประสงค์ใช้บริการ K-Stock 2 Fund เพิ่ม สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาหน้าสมุดบัญชี KBANK, สำเนาหน้าสมุดบัญชีกองทุน อย่างละ 1 ฉบับ

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี Credit Balance (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)

  1. สำเนาประจำตัวประชาชน 2 ฉบับ
  2. สำเนาเอกสารแสดงสถานะทางการเงิน ย้อนหลัง 3 เดือน เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติวงเงินรวมกันไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท - กรณีมีหุ้นในพอร์ตมูลค่าต่ำกว่า 300,000 บาท เตรียมเอกสารทางการเงินเพิ่มเติมให้ครบ 300,000 บาท
  3. สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้หักบัญชี 1 ฉบับ (สำหรับการเปิด Cash Account ควบคู่กันไป)
  4. ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ต่อ ทุกๆ วงเงิน 1,000,000 บาท (หลังจากบัญชีได้รับการอนุมัติวงเงินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งยอดรวมค่าอากรแสตมป์ ที่ลูกค้าจะต้องโอนเข้ามาชำระกับทางบริษัทฯ)
หมายเหตุ: สำหรับลูกค้าที่ต้องการเปิดบัญชี Credit Balance ต้องเปิดบัญชี Cash ด้วย

Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left
None
 
Padding
Black
Middle|Left
Left